ค้นหาหนัง

Most Dangerous Game เกมส์ล่าโคตรอันตราย เดอะมูฟวี่

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น
เรื่องย่อ : Most Dangerous Game เกมส์ล่าโคตรอันตราย เดอะมูฟวี่

เพื่อที่จะหาเงินมาดูแลภรรยาที่กำลังอุ้มท้องก่อนจะถูกโรคร้ายคร่าชีวิตอย่างสิ้นหวัง ดอดจ์ ไทนส์ยอมรับข้อเสนอให้ร่วมเล่นเกมอันตราย ที่เขาจะได้รู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ล่า แต่เป็นเหยื่อ

IMDB : tt10580064

คะแนน : 9



ซีรีส์ขนาดสั้นตอนละไม่ถึงสิบนาทีจากค่ายสตรีมใหม่ Quibi ที่ปิดตัวไป โดยการขายกิจการให้ Roku Channel  ซึ่ง Amazon prime ก็ซื้อสิทธิ์มาฉายพ่วงที่นี่อีกที โดยปรับจาก 15 ตอนสั้นตามรูปแบบเดิมของ Quibi มาเป็นตอนเดียวยาวสองชั่วโมงกว่า เหมือนหนังเรื่องนึง ซึ่งก็แทบไม่รู้สึกว่าแตกต่างกันยังไง เพราะแต่ละตอนของต้นฉบับก็เหมือนการตัดฉากในหนังเป็นช่วงๆ เท่านั้น

พล็อตเรื่องนี้มาในแนวเกมไล่ล่าแบบทั่วไป อาจจะไม่ได้ใหม่อะไรนัก แต่ว่าพล็อตเดิมๆ แบบนี้ก็เป็นอะไรที่สร้างมาได้เรื่อยๆ แล้วก็ดูจะถูกใจคนดูง่ายถ้าทำออกมาได้ดีไม่น่าเบื่อก็ผ่านแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก้เข้าข่ายแบบนั้นเช่นกัน โดยการเซ็ตเรื่องให้พระเอก ดอดจ์ (รับบทโดย Liam Hemsworth) หัวหน้าครอบครัวที่กำลังมีปัญหาชีวิตตกต่ำถึงขีดสุด ลงทุนสร้างตึกแต่กลับไม่ได้ตามเป้าจนแทบล้มละลาย ภรรยาก็ใกล้คลอด แถมเขายังต้องเจอกับโรคเนื้องอกในสมองที่พึ่งมารู้ตัว โดยมีเวลาไม่ถึงสองอาทิตย์ก่อนจจะตาย เขาต้องดิ้นรนหาทางต่อชีวิตให้รอดอีกนิดเพื่อครอบครัว จนในที่สุดก็ได้พบกับกองทุนช่วยคนไร้ค้ำประกัน ที่มี ไมล์ (รับบทโดย Christoph Waltz) เป็นผู้ติดต่อประสานหาเงินให้เขา โดยมีข้อเสนอให้เขาเข้าร่วมเล่นเกมล่า โดยเขาต้องเป็นเหยื่อให้นักล่า 5 คนตามล่าในเมืองดีทรอยต์ ภายในเวลา 24 ชั่วโมง มีกฎสำคัญคือ ห้ามออกจากเมือง ห้ามเอาตัวเองเข้าไปยุ่งกับตำรวจ ห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร ห้ามใช้อาวุธปืน ซึ่งฝ่ายนักล่าเองก็มีกฎในรูปแบบเดียวกันเพื่อความเท่าเทียม โดยดอดจ์จะได้รับเงินทุกชั่วโมงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนครบ 24.5 ล้านเหรียญ และต้องพกมือถือเครื่องเดียวที่ไมล์ให้ไว้ติดต่อกับเขาโดยตรง และยังเป็นตัวแสดงตำแหน่งที่เขาอยู่ทุกชั่วโมงเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนสัญญาณจะดับหายไป เพื่อให้ผู้ล่าได้สนุกกับการค้นหาล่าเขาเต็มที่ ซึ่งสุดท้ายดอดจ์ก็ไม่มีทางเลือกจนต้องเข้าร่วมเกมนี้ ก่อนจะพบว่าเกมนี้มันอันตรายถึงครอบครัวเขาอีกด้วย

ถึงโครงเรื่องจะมาในแนวเดิมๆ แต่ตัวเรื่องก็ได้ลุ้นระทึกสนุกอยู่ตลอดเวลา อาจจะเพราะต้นฉบับเป็นซีรีส์ขนาดสั้นไม่ถึงสิบนาที จึงทำให้การดำเนินเรื่องต้องมีจุดบิ้วลุ้นระทึกกันทุกช่วงต่อเนื่องมากกว่าแบบภาพยนตร์ที่อาจจะมีการทิ้งช่วงยาวกว่า ซึ่งช่วงแรกมีการปูความเป็นมาแบบย้อนอดีตกลับไปนิดหน่อยว่าทำไมพระเอกถึงยอมมาเล่นเกมนี้ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าถึงตายแน่ๆ ก็เพราะเขาป่วยหนักจนหมดหนทางจริงๆ ซึ่งตัวเรื่องปูส่วนนี้ได้เป็นเหตุเป็นผลน่าเชื่อถือ พร้อมกับความมีไมตรีจากไมล์ที่ดูเหมือนหวังดีกับเขาจริงๆ ก่อนจะเริ่มเกมในร้านอาหารเล็กๆ ที่นักล่าก็มาร่วมอยู่ด้วยแบบไม่เปิดเผย ซึ่งจุดนี้เองที่เรื่องทำได้ระทึกมากขึ้น เพราะเราก็เหมือนตกอยู่ในสภาพเดียวกับพระเอก ไม่รู้ว่าใครในฝูงคนคือนักล่า แม้จะมีกฎว่าห้ามฆ่าในที่โจ่งแจ้งเพื่อให้เรื่องดูสมเหตุผล อาจจะดูว่าก็ไปซ่อนในกลุ่มคนที่สาธารณะสิ ซึ่งตัวเรื่องก็เหมือนดักผู้ชมที่คิดไว้แบบนี้อยู่แล้ว โดยให้ไมล์บอกกับดอดจ์เองแต่แรกว่าฝูงคนคือที่ซ่อนดีที่สุด แต่ในความเป็นจริงการที่เรารู้ว่ามีนักล่าจ้องฆ่าเราอยู่ในฝูงชน มันก็ทำให้คนนั้นเกิดอาการแพนิคได้ง่ายๆ และถึงไม่ฆ่ากลางแจ้ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำร้ายหรือขู่ไม่ได้ ซึ่งบทก็เขียนบีบคั้นพระเอกให้ไปจนมุมในที่ลับตาของเมืองได้ดี ทำให้เกมดูน่าเชื่อถือว่าเป็นไปได้ในโลกจริง แถมยังมีแบ็คกราวด์เสริมไว้นิดๆ ว่านี่ไม่ใช่เกมที่เกิดในยุคนี้ แต่มีมานับพันปีแล้ว ซึ่งเข้าใจว่าคงไปเฉลยเพิ่มในซีซั่น 2 ซึ่งตอนนี้ทาง Roku ก็อนุมัติให้สร้างต่อแล้ว โดยเป็นการขึ้นเรื่องใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับดอดจ์ ที่ตัวเรื่องน่าจะวางเกมล่าเป็นซีซั่นแยกตัวละครจากกัน โดยมีตัวไมล์เป็นตัวเชื่อมของทุกซีซั่นอีกที ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ไมล์ แต่ยังมีลูกน้องที่เป็นนักเก็บกวาดที่เกิดเหตุอีกคนเป็นตัวละครสำคัญประจำเรื่อง แยกออกจากนักล่าอีกที ทั้งคู่มีรายละเอียดการทำงานที่แตกต่างกัน เป็นเหมือนจักรวาลเกมล่าที่มีเครือข่ายใหญ่โตกว่าที่คิดมาก